วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

10 อันดับรถหรูที่แพงที่สุดและหาอยากที่สุด


มาดูกันว่ารถหรูรุ่นไหนติดอันดับรถที่หาอยากและแพงที่สุด

อันดับที่ 1. ได้แก่ Ferrari 250 Gto 
ราคาของรถอยู่ที่ 52,000,000 Us. (ประมาณ 1,664,000,000 บาท )
Picture



อันดับที่ 2. ได้แก่ Ferrari 250 Testa Rossaราคา 16,400,000 Us. (ประมาณ 524,800,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 3. Mercedes Benz Slr Mclaren 999 Red Gold Dream Ueli Anliker
ราคาอยู่ที่ 9,400,000 Us. (ประมาณ 300,800,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 4. Maybach Exelero
ราคาอยู่ที่  8,000,000 Us. (ประมาณ 256,000,000 บาท )00,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 5. Rolls-Royce Hyperion Pininfarina
ราคา 6,000,000 Us. (ประมาณ 192,000,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 6. Lamborghini Veneno Roadster

  ราคา 5,600,000 Us. (ประมาณ 179,200,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 7. Pagani Zonda Revolucion 
ราคา 4,500,000 Us. (ประมาณ 144,000,000บาท )
Picture


อันดับที่ 8. Bugatti Veyron 16.4 Super Sport
ราคา 4,000,000 Us. (ประมาณ 128,000,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 9.  Mazda Furai Concept
ราคา 4,000,000 Us. (ประมาณ 128,000,000 บาท )
Picture


อันดับที่ 10. Porsche 918 Spyder Concept 
ราคา 1,000,000 Us. ( ประมาณ 32,000,000 บาท )
Picture

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ใหม่โตโยต้า รีโว็

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Ducati

เลือกซื้อ DUCATI สักคัน
Picture
Ducati  เป็นรถจากประเทศอีตาลี ผลิตแต่มอเตอร์ไซค์ล้วนๆ เมื่อก่อนเป็นรถนำเข้ามาทั้งคัน แต่พอขายดีมากๆ ก็มาตั้งฐานผลิตที่เมืองไทย ทำให้ภาษีนำเข้าลดลง ทำให้ราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อน
Picture
Ducati เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีราครคันละต่ำๆ ก็ 500,000 คือรวมทุกสิ่งอย่างตัวที่แพงที่สุดๆ ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ4 ล้าน ส่วนตัวกลางๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณม 1 ล้านบวก ลบ ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีราคาแพง ถ้าเที่ยบกับมอเตอร์ไซค์บิกไบค์ญี่ปุ่น ตัวบิกไบค์ญี่ปุ่นเริ่มันสัก 200,000 หรือ 300,ส่วน Ducati จะแพงกว่าประมาณ 40%
Picture
Ducati ราคาขนาดนี้ในด้านคุณภาพของรถเรื่องคุณภาพก็อยู่ระดับปานกลาง เป็นรถที่ไม่มีความโดดเด่นมาก  แต่ละรุ่นก็มีปัญหาที่เกิดจากสายการผลิตมาจากโรงงานกันพอสมควร  สำหรับราคาที่ตั้งไว้ กับคุณภาพในก็เหมาสมกับการผลิตในไทย อาจจะเป็นกลไกการตั้งราคาในเมืองไทยด้วยเพราะราคาที่เป็น USD หรือ ในอังกฤษ และฝั่งยุโรป เจ้า Ducati ก็ไม่ได้แพงมากนั้น ราคาก็พอๆ กับ BMW แต่เมืองไทย Ducati จะแพงกว่าเค้าอีก 30 % อันนี้เป็นการบวกราคา + แบรนด์ และ ค่าการตลาด สำหรับเมืองไทย

Picture
ค่าบำรุงรักษา สำหรับค่าบำรุงรักษาถือว่าเยอะพอสมควรต้องมีเงินสำรองหรือสำหรับคนที่มีตังเก็บอะไหล่ของducati อะไหล่ของducati มีราคาที่สูงกว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆประมาณ 50-70% เพราะอะไหล่ยังคงต้องนำเข้าจากต่างประเทศถึงแม้จะมีโรงงานผลิตในไทยแล้วก็ตามทำให้ราคาอะไหล่ยังคงมีราคาที่สูง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การแต่งรถแบบ VIP

แต่งรถแบบ VIP  VIP Style คือสไตส์การแต่งรถที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า "แนวยากูซ่า" แต่ที่จริงแล้ว VIP หมายถึง "very important person" 


Picture
การแต่งรถ สไตส์ VIP ส่วนใหญ่เป็นรถ Sedan บอดี้ใหญ่ ในบ้านเราที่เห็นๆ กันส่วนก็จะมี Honda Accord, Toyota Camry, Nissan Teana และรถรุ่นอื่นๆบ้างที่มีบอดี้ขนาดใหญ่ แต่ในบ้านเรารถขนาดใหญ่นั้นเป็นไปค่อนข้างยากเพราะมีราคาสูงพอสมควรจึงมีการอนุโลมในเงื่อนไขแบบไทยๆ คือ Mini Sedan, Mid Sedan ก็สามารถทำรถแนว VIP 
Picture
ส่วนล้อแนว VIP Style ไม่ได้หมายถึง ล้อโครเมี่ยมเงาวับหรือล้อโตขอบ 20" ขึ้นไป แต่มันคือล้อแท้จากสำนักผลิตที่มีมาตรฐาน คุณภาพสุดบรรยาย วัสดุชั้นดี งานสวยที่ของก๊อปปี้เทียบไม่ติด และลายนั้นต้องไม่ใช่แนว Racing พอใส่กับรถแล้วดูสวย หรูหรา เนี๊ยบทำให้รถมีราคาขึ้นมากและดูเป็นผู้ใหญ่ Style ได้
Picture
สีของรถควรเป็นสีแนวสุภาพ แต่ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องขาวหรือดำเท่านั้น สีอะไรก็ได้แต่งขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเรียบร้อยหรูหรา ดูเป็นผู้ใหญ่ ก็แล้วแต่จะทำกัน  ส่วนการเล่นสีสันเจ็บๆ นั้น ทาง VIP Car เขาให้นิยามมาว่า VIP Car Inaka หรือที่เราเรียกกันว่า อินากะ ในภาษาไทย มันมีที่มาจากการที่รถ VIP Car ที่อยู่ตามต่างจังหวัดประเทศญี่ปุ่น เขาชอบใช้สีสดๆ ซึ่งมันผิดกับคอนเซ็ปท์ที่กล่าวไว้ตอนต้นนั่นเอง
Picture
รถต้องมีความเตี้ยพอสมควร ถึงเตี้ยมาก แต่สำหรับไทยแลนด์บ้านเรา ถนนขรุขระเหมือนผิวดาวอังคารไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไร ความเตี้ยของรถจึงไม่จำเป็นมากเท่าไหร่
ใส่ Aero Part รอบคัน และ Aero Part ต้องออกแนว VIP Style ถ้า Aero Part แนว Racing ก็จะผิดสูตรไม่เข้ากับแนว VIP Style จะกลายเป็นการแต่งแบบ Racing ไปเล


Picture

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รถกระบะ 10 ลำดับที่แรงที่สุด

ถกระบะที่แรงที่สุด
รถกระบะถูกออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนน้ำหนักบรรทุกที่มากกว่ารถยนต์ทั่วไป รวมทั้งช่วงล่างออกแบบให้รองรับน้ำหนัก มากกว่าเพื่อการขับขี่แบบรวดเร็วอย่างรถสปอร์ต 
มาดูกันว่า 10 ลำดับรถกระบะที่แรงที่สุดมียี่ห้อไหนบ้าง

1. Toyota Tundra TRD Supercharged

สุดยอดรถกระบะตัวแรงของโตโยต้า เริ่มจำหน่ายในปี 2008 ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,700 ซีซี ติดตังระบบซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลัง 504 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ฟังดูตัวเลขอาจไม่เยอะ แต่ถ้าพูดถึงอัตราเร่งแล้ว  ใช้เวลาเพียง 4.4 วินาทีทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เรียกได้ว่าเป็นอัตราเร่งที่รถสปอร์ตหลาย ๆ รุ่นยังอาย แถมยังเทียบชั้นซูเปอร์คาร์ได้เลยทีเดียว

Picture
2. Ram SRT10
 รถกระบะรุ่นนี้ที่เริ่มผลิตในปี 2006 โดยกระบะสัญชาติมะกันรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ขนาด 8,300 ซีซี ให้กำลัง 500 แรงม้า แรงบิด 712 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 248 กม./ชม. และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที นับว่าเป็นกระบะอีกรุ่นหนึ่งที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมจริง ๆ
Picture
3. GMC Syclone
อีกหนึ่งตำนานจากค่ายเจเนรัล มอเตอร์ (General Motor) ซึ่งเจ้าจีเอ็มซี ไซโคลนเป็นรถกระบะขนาดเล็ก ผลิตจำหน่ายตั้งแต่ปี 1991 ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ขนาด 4,300 ซีซี ให้กำลัง 280 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.3 ในยุคนั้น แถมยังยากที่จะหารถกระบะมาเทียบชั้นได้แม้จะผ่านมานานกว่า 20 ปี แล้วก็ตาม

Picture
4.Ford F-150 SVT Lightning
กระบะสายฟ้า ชื่อรุ่นสปอร์ตของฟอร์ด เอฟ-150 ตั้งแต่ปี 1993-2004 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,400 ซีซี ให้กำลังแรงที่สุด 380 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร ทำควมเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที ซึ่งฟอร์5 Ram R/Tด เอฟ-150 ไลท์นิ่ง นับเป็นรถกระบะแต่งเต็มที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยในยุคนั้น
Picture
5 Ram R/T
 ไครส์เลอร์ (Chrysler) ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ยึดแนวทางการผลิตรถมัสเซิลคาร์แบบดั้งเดิมได้ไว้ได้ ซึ่งนอกจากรถซีดานและคูเป้แล้ว ไครส์เลอร์ก็ยังเลือกพัฒนารถกระบะ แรม อาร์/ที ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์กำลังสุดยอดอย่าง V8 ขนาด 5,700 ซีซี กำลัง 390 แรงม้า แรงบิด 551 นิวตันเมตร ซึ่งแม้จะทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.7 วินาที
Picture
6 Ford F-150 Tremor
 ทรีเมอร์เป็นรุ่นสปอร์ตของฟอร์ด เอฟ-150 ปรากฏโฉมครั้งแรกในปี 2014 โดยใช้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดอย่าง Ecoboost V6 ขนาด 3,500 แรงม้า ให้กำลัง 365 แรงม้า แรงบิด 570 นิวตันเมตร แรงเสียยิ่งกว่ารุ่นแรพเตอร์ซึ่งเป็นรุ่นสปอร์ตดั้งเดิมเสียอีก โดยทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.8 วินาที และมันยังมีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ซึ่งให้พละกำลังใกล้เคียงกัน
Picture
7.Toyota Tacoma X-Runner
รุ่นสปอร์ตจัดเต็มจำนวนจำกัดของโตโยต้า ทาโคม่า รถกระบะรุ่นเล็กที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ปรับแต่งทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และระบบอื่น ๆ เพื่อสรรถนะที่ยอดเยี่ยม โดใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 4,000 ซีซี ให้กำลัง 236 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที ซึ่งถือว่าแรงทีเดียวสำหรับรถกระบะ
Picture
8. Chevrolet Silverado SS
เชฟโรเลตแล้ว ชื่อรหัส SS มักการันตีความแรงของรถได้เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันกับเชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด เอสเอส กระบะยักษ์ดีไซน์ดุดัน ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,000 ซีซี ให้กำลัง 345 แรงม้า และแรงบิด 515 นิวตันเมตร ส่งรถกระบะคันยักษ์ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.3 
Picture
9 Ford F-150 SVT Raptor
แรพเตอร์เป็นชื่อต่อท้ายกระบะตัวแรงสไตล์ออฟโร้ดของฟอร์ดมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,200 ซีซี ให้กำลัง 411 แรงม้า แรงบิด 588 นิวตันเมตร ที่ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นดูไม่ค่อยดีนัก เพราะช่วงล่างแบบรถออฟโร้ดที่เน้นการปีนป่ายมากกว่า แต่ถ้าหากแต่งเป็นแบบสปอร์ตตัวเลขที่ออกมาคงดีกว่านี้
Picture
10. Chevrolet Silverado 454 SS
ตัวแรงแห่งยุค 1990 ติดอันดับกระบะตัวแรงทุกครั้งที่จัดอันดับ มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 7,000 ซีซี กำลัง 238 แรงม้า แรงบิด 522 นิวตันเมตร ด้วยเครื่องยนต์ระดับนี้คาดว่าตัวรถจะทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที นับเป็นรถกระบะที่แรงระดับหัวแถวแห่งปี 1990 เลยทีเดียว
Picture